NVIDIA GeForce RTX 4090 เป็นการ์ดจอที่ตั้งมาตรฐานใหม่สำหรับเกมเมอร์ด้วยสถาปัตยกรรม Ada Lovelace และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ให้ประสิทธิภาพ

เหนือระดับทุกการใช้งาน

1. Ada Lovelace Architecture
NVIDIA GeForce RTX 4090 สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรม Ada Lovelace ซึ่งผลิตด้วยกระบวนการขนาด 4nm ของ TSMC ทำให้การ์ดกราฟิกนี้มีประสิทธิภาพต่อวัตต์ที่ดีขึ้นถึง 50% เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

2. CUDA Cores
RTX 4090 มาพร้อมกับ CUDA Cores จำนวน 16,384 ยูนิต ซึ่งให้พลังการประมวลผลสูงสุดถึง 83 TFLOPS ช่วยให้สามารถประมวลผลข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

3. หน่วยความจำ
การ์ดนี้มีหน่วยความจำ 24GB GDDR6X ที่มีบัสกว้าง 384-bit และความเร็ว 21 Gbps ทำให้สามารถจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และรองรับการเล่นเกมในระดับ 4K ได้อย่างราบรื่น

เกมทั่วไป (Rasterization):

Cyberpunk 2077 (4K Ultra): RTX 4090 ทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับอัตราเฟรมเรตที่ 88 FPS เมื่อเปิดใช้งาน DLSS2 ซึ่งมีความแตกต่างจาก RTX 3090 TI ที่ทำได้เพียง 34 FPS เท่านั้น

Marvel’s Spider-Man (4K RT Ultra): การเล่นบน RTX 4090 สามารถทำให้เฟรมเรตเพิ่มขึ้นเป็น 115 FPS โดย DLSS2 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพจาก 58 FPS บน RTX 3090 Ti

Forza Horizon 5: RTX 4090 แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่สูงขึ้น 70% เมื่อเปรียบเทียบกับ RTX 3090 Ti ในการใช้พลังงานเพียง 284W

Ray Tracing แบบเต็มรูปแบบ:

Dying Light 2 (4K RT Ultra): RTX 4090 มีความเร็วที่สูงกว่า RTX 3090 Ti ถึง 74%

Control Ultimate Edition: สามารถให้ประสิทธิภาพที่สูงกว่าการ์ด RX 6900 XT ถึง 3.5 เท่า

Metro Exodus Enhanced: RTX 4090 สามารถทำได้ดีกว่า RTX 3090 ถึง 77%

การจัดการพลังงานและความร้อน

TGP 450W แต่ใช้งานจริงเฉลี่ย 284-436W ขึ้นกับเกม

ประสิทธิภาพพลังงานดีขึ้น 40-50% เมื่อเทียบ RTX 3090

ระบบระบายความร้อนใหม่ช่วยให้อุณหภูมิ GPU คงที่ที่ 65-70°C

ความสำเร็จและข้อควรพิจารณาของ NVIDIA GeForce RTX 4090

NVIDIA GeForce RTX 4090 ถือเป็นการปฏิวัติวงการการเล่นเกมและการประมวลผลกราฟิกระดับสูง ด้วยความสามารถที่ไม่มีใครเทียบได้ในการแสดงผล 4K Ultra และการใช้งานที่เต็มประสิทธิภาพในเกมที่หนักที่สุด โดยการ์ดกราฟิกนี้ได้ยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับวงการด้วยฟีเจอร์ที่ล้ำสมัยและประสิทธิภาพที่เหนือชั้น

ความสำเร็จที่ปฏิวัติวงการ

RTX 4090 ทำให้การเล่นเกมในโหมด 4K Ultra กลายเป็นเรื่องที่ง่ายดาย เช่น การเล่น Cyberpunk 2077 ในโหมด 4K Ultra + Ray Tracing Psycho สามารถทำได้ที่ 105 fps เมื่อเปิดใช้งาน DLSS 3 ซึ่งทำให้ภาพคมชัดและไม่เกิดการสะดุดในขณะที่เกมกำลังเคลื่อนไหวเร็ว อีกทั้งยังสามารถเล่นเกม AAA อย่าง Assassin’s Creed Valhalla ได้ดีกว่า RTX 3090 TI ถึง 50-70% ทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมดียิ่งขึ้นการประมวลผล Ray Tracing รุ่นที่ 3 ใน RTX 4090 ยังมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นถึง 2.8 เท่า ซึ่งทำให้การแสดงผลแสงและเงาดูสมจริงยิ่งขึ้นกว่าเดิม

สรุปความคุ้มค่า NVIDIA GeForce RTX 4090

RTX 4090 เหมาะที่สุดสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการสัมผัสเกม 4K/8K Ultra พร้อมเอฟเฟกต์ Ray Tracing แบบเต็มรูปแบบ โดยให้เฟรมเรตสูงเกิน 100 fps ในเกมหนักอย่าง Cyberpunk 2077 หรือ Assassin’s Creed Valhalla พร้อมรองรับเทคโนโลยี DLSS 3 ที่เพิ่มเฟรมเรตได้ 2-4 เท่าผ่าน AI ส่วนครีเอเตอร์จะได้ประโยชน์จากความเร็วในการเรนเดอร์ 3D และตัดต่อวิดีโอ 8K ที่เร็วขึ้น 2 เท่า อย่างไรก็ตาม การ์ดจอรุ่นนี้ใช้พลังงานสูงถึง 450W ต้องใช้เพาเวอร์ซัพพลาย 850W ขึ้นไป และมีขนาดใหญ่เท่าหนังสือ (ยาว 304-337 มม.) ซึ่งอาจไม่เหมาะกับเคสขนาดเล็ก ราคาเริ่มต้น 58,000 บาท ทำให้คุ้มค่ากับผู้มีงบประมาณเพียงพอที่ต้องการสมรรถนะสูงสุด ในขณะที่ผู้เล่นเกม 1440p หรือมีงบจำกัดอาจพิจารณาตัวเลือกอื่น เช่น RTX 4080 Super (38,000 บาท) หรือ AMD 7900 XTX (45,000 บาท) แม้ RTX 5090 จะถูกประกาศในปี 2025 แต่ RTX 4090 ยังคงเป็นตัวเลือกชั้นนำสำหรับการใช้งานระดับสูงสุดในปัจจุบันทั้งเกมและงานครีเอทีฟ