Ray-Ban และ Meta ได้เปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะรุ่นล่าสุดอย่าง RAY-BAN META WAYFARER ซึ่งถือเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่จากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Ray-Ban Stories ที่เปิดตัวในปี 2021 โดยรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับการปรับปรุงทั้งด้านดีไซน์, คุณภาพเสียง, กล้อง, และฟีเจอร์อัจฉริยะต่าง ๆ ที่ทำให้มันกลายเป็นอุปกรณ์ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและแฟชั่น

Cr :Tech Fowler

มาพร้อมกับสองสไตล์หลักคือ Wayfarer และ Headliner ซึ่งทั้งสองแบบนี้เป็นดีไซน์คลาสสิกของ Ray-Ban ที่คุ้นเคย นอกจากนี้ยังมีสีสันให้เลือกหลากหลายมากขึ้น เช่น สีดำด้าน, สีดำเงา, และสีฟ้าแบบกึ่งโปร่งแสงที่สามารถเห็นเทคโนโลยีภายในได้ ซึ่งเพิ่มความทันสมัยและความน่าสนใจให้กับแว่นตาคู่นี้

ในแง่ของความสบายในการสวมใส่ แม้ว่าแว่นตารุ่นนี้จะหนากว่าแว่นตา Ray-Ban ทั่วไปเล็กน้อย แต่ก็ยังสวมใส่สบายและไม่รู้สึกหนักจนเกินไป นอกจากนี้ยังมีการออกแบบที่ปรับให้เข้ากับรูปหน้าได้ดี ไม่หลุดง่าย และเหมาะกับผู้ใช้ส่วนใหญ่

มีตัวเลือกเลนส์ให้เลือกหลายแบบ ได้แก่ เลนส์มาตรฐาน, เลนส์เปลี่ยนสี (Transition Lenses), และเลนส์โพลาไรซ์ ซึ่งช่วยลดแสงสะท้อนและเพิ่มความสบายตาในการใช้งานกลางแจ้ง นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกเลนส์สายตา (Prescription Lenses) สำหรับผู้ที่มีปัญหาสายตา แต่ช่วงค่าสายตาที่รองรับอยู่ที่ -6 ถึง +4 เท่านั้น

หนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ RAY-BAN META WAYFARER คือการที่มันสามารถทำหน้าที่เป็น หูฟังบลูทูธ ได้ โดย Meta อ้างว่าคุณภาพเสียงดีขึ้น 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยเฉพาะในส่วนของเบสและความชัดเจนของเสียง อย่างไรก็ตาม การใช้งานจริงพบว่ายังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น เสียงยังไม่ดังพอในสภาพแวดล้อมที่เสียงรบกวนมาก และยังมีเสียงรั่วออกมาเล็กน้อยเมื่อเปิดเสียงดัง

กล้อง ถูกอัปเกรดเป็นกล้อง Ultra Wide 12 เมกะพิกเซล ซึ่งให้คุณภาพภาพและวิดีโอที่ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม กล้องนี้อยู่ที่ด้านซ้ายของแว่นตาเท่านั้น ทำให้การจัดเฟรมภาพอาจไม่สะดวกนัก นอกจากนี้รูปแบบการบันทึกวิดีโอจะเป็นแนวตั้ง (Vertical) ซึ่งเหมาะสำหรับการโพสต์บนโซเชียลมีเดีย แต่ไม่เหมาะสำหรับการสร้างคอนเทนต์แนวนอน (Horizontal) เช่น บน YouTube

เพื่อแก้ไขปัญหาความเป็นส่วนตัว Meta ได้เพิ่มขนาด LED บนแว่นตาให้ใหญ่ขึ้นและทำให้มันกระพริบเมื่อมีการบันทึกวิดีโอหรือภาพ ซึ่งช่วยให้คนรอบข้างรู้ว่ากำลังถูกบันทึก อย่างไรก็ตาม ในสภาพแวดล้อมกลางแจ้ง LED อาจมองเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก

มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ประมาณ 3 ถึง 3.5 ชั่วโมงเมื่อใช้งานหนัก เช่น การบันทึกวิดีโอและภาพ แต่หากใช้งานเป็นแว่นตาธรรมดาและใช้ฟีเจอร์เสียงเป็นครั้งคราว สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีเคสชาร์จที่สามารถชาร์จแว่นตาได้ถึง 8 ครั้ง ซึ่งชาร์จผ่านพอร์ต USB-C แต่ไม่รวมสายชาร์จมาในกล่อง

RAY-BAN META WAYFARER เริ่มต้นที่ราคา $299\ast \ast สำหรับรุ่นมาตรฐานและเพิ่มขึ้นเป็น\ast \ast$329 สำหรับรุ่นที่มีเลนส์โพลาไรซ์ ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสูง แต่เมื่อพิจารณาถึงฟีเจอร์อัจฉริยะต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับแว่นตาคู่นี้ ก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์อเนกประสงค์

RAY-BAN META WAYFARER เป็นแว่นตาอัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทั้งในด้านดีไซน์, คุณภาพเสียง, และความสามารถในการบันทึกภาพและวิดีโอ อย่างไรก็ตาม มันยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น การจัดเฟรมภาพที่ลำบากเนื่องจากกล้องอยู่ด้านเดียว และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ไม่นานนัก

หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและต้องการแว่นตาที่ทำได้มากกว่าการเป็นแว่นตา และอาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่หากคุณแค่ต้องการแว่นตาดี ๆ สักคู่ Ray-Ban ทั่วไปก็เพียงพอแล้ว

หากสนใจสินค้าสอบถามได้ที่ LINE ID: @metaxr

Website :https://mtxr.co/shop/ray-ban-meta-wayfarer/