สรุปข่าว

แว่น Oculus ของ Meta บริษัทแม่ของ Facebook ได้กลายเป็นของขวัญยอดฮิตสำหรับวันคริสต์มาส

แต่แว่น Oculus Quest 2 รุ่นยอดนิยมนี้ไม่ได้ถูกผลิตมาพร้อมกับฟังก์ชันที่ผู้ปกครองเด็กจะควบคุมการใช้งานได้

ได้เกิดกรณีการละล่วงละเมิดเด็กหลายกรณีในห้องแชทเสมือนจริงชื่อดังอย่าง VRChat ตามที่ศูนย์การต่อต้านความเกลียดชังทางออนไลน์ (CCDH : Center for Countering Digital Hate) ได้รายงาน

ผู้ปกครองที่ซื้อชุดแว่นเสมือนจริงเป็นของขวัญวันคริสต์มาสให้ลูกอาจจะพบกับเรื่องเซอร์ไพรส์ที่ชวนให้ปวดหัวได้

แว่น Oculus จากแผนก VR ของ Meta บริษัทของ Facebook พบว่ามีแนวโน้มที่ยอดขายพุ่งขึ้นสูงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา พร้อมกับแอปหลักที่ใช้งานร่วมกับแว่น VR มียอดดาวน์โหลดพุ่งขึ้นสูงจนติดอันดับท็อปชาร์ตใน App Store ของ Apple ในช่วงวันคริสต์มาสที่ผ่านมา

แต่แว่น Oculus Quest 2 รุ่นยอดฮิตของบริษัทไม่ได้มีฟังก์ชันที่ให้ผู้ปกครองควบคุมดูแลการเข้าถึงเนื้อหาคอนเทนต์ 18+ และเนื้อหาคอนเทนต์อื่น ๆ ที่เป็นอันตรายต่อเด็กได้

แว่น VR รุ่นอื่น ๆ อย่าง Vive ของ HTC และ Index ของ Valve ก็ยังไม่มีฟังก์ชันที่ปกป้องให้เด็กปลอดภัย แม้ว่า HTC จะบอกว่าชุดแว่น VR ในปัจจุบันยังไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก แต่ก็สามารถทำได้โดยผู้ปกครองทำการตั้งค่าในโหมดควบคุมดูแลโดยผู้ปกครองบนเครื่องเล่น PlayStation VR ของ Sony ผ่าน PS4 และ PS5 คอนโซลได้

นอกจากเนื้อหาคอนเทนต์ที่อาจจะไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ๆ แล้ว ผู้เชี่ยวชาญยังมีความกังวลว่าการใช้แว่น VR อาจจะส่งผลเสียต่อสายตาของเด็ก ๆ ได้ถึงแม้ว่าจะมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้เพียงเล็กน้อยก็ตาม

Meta มีความตั้งใจผลิตแว่น VR เพื่อเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการทำธุรกิจของบริษัทบน Metaverse โลกเสมือนจริงที่สามารถใช้งานร่วมกันไม่ว่าจะเป็นการทำงาน พักผ่อนและติดต่อสื่อสาร

การรีแบรนด์ของบริษัทจาก Facebook ได้กระตุ้นให้ผู้คนหันมาสนใจในแว่น VR อีกครั้ง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะต้องออกแรงต่อสู้มาอย่างยาวนานเพื่อให้เกิดแรงกระตุ้นทางการค้าครั้งใหญ่

Meta ได้กล่าวว่าในการให้บริการของเราไม่ได้อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีสามารถสร้างบัญชีผู้ใช้ได้และข้อมูลเหล่านี้ก็ได้รวมอยู่ในขั้นตอนการติดตั้งของแว่น VR อีกทั้งเนื้อหาคอนเทนต์บน Oculus ทั้งหมดนั้นได้รับการจัดประเภทโดยสหพันธ์การจัดประเภทตามอายุสากล (IARC: International Age Rating Coalition) Meta กล่าวเพิ่ม

ด้านมืดของ VR

ศูนย์การต่อต้านความเกลียดชังทางออนไลน์ (CCDH : Center for Countering Digital Hate) องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ได้รณรงค์ให้บริษัท Big Tech ขจัดความเกลียดชังออกจากแพลตฟอร์มของตน ได้พบว่ามีกรณีการล่วงละเมิดเด็ก ไม่ว่าจะเป็นการล่วงละเมิด, การเหยียดเชื้อชาติ และภาพอนาจารหลายครั้งในห้องแชทเสมือนจริงชื่อดังอย่าง VRChat ซึ่งมีบริการนี้อยู่บน Oculus ด้วย

มีภาพคลิปหนึ่งที่เผยแพร่โดย CCDH ที่พบว่าผู้ใช้งานคนหนึ่งได้บันทึกภาพการชื่นชมการล่วงละเมิดเด็ก และมีอีกคลิปที่แสดงให้เห็นว่ามีบางคนกำลังล้อเลียนเกี่ยวกับการเป็น “ผู้ต้องหากระทำความผิดทางเพศ” โดยที่มีเด็กอยู่ในสถานการณ์นั้นด้วย CCDH ได้กล่าวว่า แว่น VR ไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กหากไม่มีการดูแลโดยพ่อแม่

Imran Ahmed ประธานฝ่ายบริหารของ CCDH ได้กล่าวว่า Metaverse “เป็นแหล่งของความเกลียดชัง ภาพลามกอนาจาร และพฤติกรรมการเข้าหาเด็กเพื่อละเมิดทางเพศ” ที่ “ไม่ใช่แค่เพียงเชื่อมต่อผู้คนเข้าหากันแต่ยังเป็นแหล่งรวมของผู้ร้ายทั้งหลาย”

 

“สำหรับผู้ปกครองที่ให้ของขวัญเป็นแว่น VR Oculus ของ Facebook ในวันคริสต์มาสจำเป็นต้องตระหนักให้มากว่าพวกเขาอาจกำลังทำให้ลูก ๆ ของพวกเขาตกอยู่ในอันตรายที่ร้ายแรง” Imran Ahmed กล่าวเสริม

Meta ได้กล่าวว่า จะต้องใช้เงินลงทุน50 ล้านดอลลาร์ในการวิจัยระดับโลกและโปรแกรมพาร์ทเนอร์เพื่อที่จะแน่ใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ metaverse ได้ถูกพัฒนาอย่างมีความรับผิดชอบ

กรณี VRChat นั้น Kristina Milian โฆษกของ Meta ได้กล่าวกับ CNBC ว่าเกมนี้เป็นแอพที่ใช้งานได้หลายแพลตฟอร์มซึ่งหมายความว่า “ทุกครั้งที่ผู้เล่นเชื่อมต่อจาก Quest ก็จะทำให้มีโอกาสได้โต้ตอบกับผู้เล่นคนอื่น ๆ ที่เชื่อมต่อมาจากแพลตฟอร์มอื่นได้” อย่างเช่น SteamVR หรือ Microsoft Windows

“ซึ่งหมายความว่าผู้เล่นบน Quest สามารถรายงานและบล็อกผู้เล่นคนอื่นได้แต่เราไม่สามารถจัดการกับผู้ที่ล่วงละเมินผู้อื่นที่ไม่ใช้ผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มของเราได้” Milian กล่าวเสริม

โฆษกของทางผู้พัฒนา VRChat ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ทันทีเมื่อได้รับการติดต่อสอบถามไปจาก CNBC

ผู้ปกครองคิดเห็นอย่างไร

ขั้นตอนการตั้งค่าบน Oculus Quest 2 นั้นค่อนข้างตรงไปตรงมาและใช้เวลาไม่กี่นาที ผู้ใช้งานจะต้องเชื่อมต่อเข้ากับบัญชีผู้ใช้ Facebook ของเขา ซึ่งอายุของพวกเขาต้องไม่ต่ำกว่า 13 ปี แต่ก็ไม่มีอะไรห้ามไม่ให้เด็กที่อายุน้อยกว่า 13 ปีใช้มันได้ถ้าหากพวกเขาเข้าด้วยบัญชีผู้ใช้ของพ่อแม่พวกเขา

ผู้ปกครองบางท่านได้แสดงความคิดเห็นกับ CNBC ว่า พวกเขามีความสุขที่ให้ลูก ๆ ของพวกเขาได้เล่น VR ตราบใดที่พวกเขาอยู่ภายใต้การดูแลจากผู้ปกครอง แต่พวกเขายังได้แสดงความรู้สึกกังวลใจกรณีที่มีการใช้งาน Oculus โดยขาดการดูแลจากผู้ปกครอง

Matt Miller ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีผู้ก่อตั้งบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ Ustwo กล่าวว่าเขาได้ซื้อแว่น Oculus ให้กับลูกๆ ของเขา ซึ่งเด็ก ๆ มีอายุ 11 และ 13 ปี

“พวกเราอยากให้เด็ก ๆ มีอะไรไปอวดเพื่อน ๆ ของพวกเขา เมื่อพวกเขาได้ลองเล่น” เขากล่าว “ผมชอบที่พวกเขาสามารถเรียนรู้จักสถานที่ต่าง ๆ ที่พวกเขายังไม่เคยได้ไป”

แต่ Miller และ Lisa ภรรยาของเขา ก็คิดว่า Meta ควรมีโปรแกรมแนะนำที่กรองได้ว่ามีอะไรที่เด็ก ๆ สามารถดูได้บน Oculus และนี่เป็นการแสดงความรู้สึกที่สะท้อนจากผู้ปกครองท่านอื่น ๆ

Eric Berry วิศวกรซอฟต์แวร์ที่ทำงานในเมือง Saratoga Springs รัฐ Utah ได้กล่าวว่า เขาเองก็อยากซื้อ Oculus Quest 2 ให้กับลูก ๆ ของเขา แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อเขาได้รู้ว่าไม่มีโหมดควบคุมโดยผู้ปกครองในอุปกรณ์

“ผมหวังว่าพวกเขาจะเพิ่มโหมดนี้ในไม่ช้า ไม่เช่นนั้นจะทำให้แว่น VR ของพวกเขากลายเป็นอุปกรณ์ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับผู้ปกครอง” Berry ได้กล่าวบน Twitter

Miller ยังคงกล่าวว่า VR เป็น “ประสบการณ์ที่น่าสนใจ” และลูก ๆ ของพวกเขาก็สนุกกับการเล่นเกมบน VR อย่าง Beat Saber และเกมโซเซียลบน VR อย่าง Rec Room “พวกเขาจะได้เล่นเฉพาะเกมที่เราซื้อให้” Miller กล่าวเสริม